Total Views: 4,812Daily Views: 1

 เจาะลึก โรคไต โรคเงียบที่ต้องเฝ้าระวัง: ครบทุกข้อมูลที่คุณควรรู้

 เจาะลึก โรคไต โรคเงียบที่ต้องเฝ้าระวัง: ครบทุกข้อมูลที่คุณควรรู้

1. โรคไตคืออะไร? 5 ระยะ อาการเริ่มต้น และการสังเกต

โรคไต คือภาวะที่ไต (Kidneys) ซึ่งทำหน้าที่สำคัญในการกรองของเสีย น้ำส่วนเกิน และควบคุมสมดุลเกลือแร่ในร่างกาย เกิดความเสียหายหรือทำงานผิดปกติ ทำให้ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ เมื่อปล่อยไว้อาจนำไปสู่ภาวะ ไตวายเรื้อรัง (Chronic Kidney Disease, CKD)

ระยะของโรคไต (CKD Stage)

การแบ่งระยะของ โรคไต ขึ้นอยู่กับค่าอัตราการกรองของไต (eGFR – estimated Glomerular Filtration Rate) โดยแบ่งเป็น 5 ระยะหลัก ดังนี้:

ระยะของโรคไต ค่า eGFR (มล./นาที) ระดับความรุนแรง การรักษาเบื้องต้น
ระยะที่ 1 \ge 90 มีความผิดปกติของไต (เช่น โปรตีนรั่ว) แต่ไตยังทำงานปกติ ปรับพฤติกรรม สุขภาพ
ระยะที่ 2 60 – 89 ไตเริ่มมีความผิดปกติเล็กน้อย ควบคุมโรคร่วม เช่น เบาหวาน ความดัน
ระยะที่ 3 30 – 59 ไตเสื่อม ปานกลาง (มักเริ่มมีอาการ) จำกัดอาหารโปรตีน ยาชะลอการเสื่อม
ระยะที่ 4 15 – 29 ไตเสื่อม รุนแรง (ต้องเตรียมตัวบำบัดทดแทนไต) วางแผนการรักษาบำบัดทดแทนไต
ระยะที่ 5 < 15 ไตวายระยะสุดท้าย (ต้องบำบัดทดแทนไต) ฟอกเลือด ล้างไตทางช่องท้อง หรือปลูกถ่ายไต

ข้อสังเกต: ค่า eGFR ต่ำกว่า 60 มล./นาที ติดต่อกันเกิน 3 เดือน จัดเป็น โรคไตเรื้อรัง

อาการเริ่มต้นและการสังเกตอาการ

โรคไต ในระยะแรกมักจะ ไม่มีอาการ ชัดเจน ทำให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่รู้ตัว จนกระทั่งเข้าสู่ระยะที่ 3 หรือ 4 จึงเริ่มมีอาการ โดยอาการเริ่มต้นที่ควรสังเกตมีดังนี้:

  • ปัสสาวะผิดปกติ: ปัสสาวะบ่อยขึ้น โดยเฉพาะช่วงกลางคืน, ปัสสาวะเป็นฟองมาก, ปัสสาวะมีเลือดปน.
  • อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย: เนื่องจากภาวะโลหิตจางจากไตไม่สามารถสร้างฮอร์โมนได้.
  • มีอาการบวม: บวมบริเวณใบหน้า เปลือกตา หรือเท้า (กดแล้วบุ๋ม) จากภาวะน้ำเกินในร่างกาย.
  • เบื่ออาหาร/คลื่นไส้/อาเจียน: จากของเสียคั่งค้างในเลือด (Uremia).
  • คันตามผิวหนัง: จากภาวะของเสียและเกลือแร่สะสม.
  • ปวดหลังหรือบั้นเอว (มักเป็นอาการของนิ่วในทางเดินปัสสาวะ หรือไตอักเสบ).

2. ชนิดของ โรคไต ที่พบมากในประเทศไทย และ 3. สถิติผู้ป่วยโรคไต

ชนิดของ โรคไต ที่พบบ่อย

สาเหตุหลักของ โรคไตเรื้อรัง ในประเทศไทยส่วนใหญ่เกิดจาก โรคเรื้อรัง อื่นๆ ได้แก่:

  1. โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus): เป็นสาเหตุอันดับ 1 ที่ทำให้เกิดภาวะไตวาย
  2. โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension): ความดันสูงทำลายหลอดเลือดในไต
  3. โรคไตอักเสบจากเนื้อเยื่อไตอักเสบ (Glomerulonephritis) และ โรคเอสแอลอี (SLE)

อัตราสถิติผู้ป่วย โรคไต ในประเทศไทย

  • คนไทยป่วยเป็น โรคไตเรื้อรัง คิดเป็นประมาณร้อยละ 17.6 ของประชากรไทย หรือประมาณ 8 ล้านคน.
  • ในจำนวนนี้ มีผู้ป่วยเข้าสู่ภาวะ ไตวายระยะสุดท้าย (ต้องบำบัดทดแทนไต) ประมาณ 80,000 คน.
  • อัตราการเสียชีวิตจาก โรคไตเรื้อรัง ในปี 2564 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 22.8 จากปี 2560 (เพิ่มจาก 9,644 คน เป็น 11,850 คน).
  • สาเหตุหลักของการเกิด โรคไต ในไทยคือการมีพฤติกรรม ติดเค็ม ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อความดันโลหิตสูง.

4. โรคไต ที่พบมากตามเพศและวัย

  • โรคไตที่ผู้ชายเป็นมากสุดในประเทศไทย: โดยทั่วไปแล้ว โรคไตเรื้อรัง มีความชุกในเพศหญิงมากกว่าเล็กน้อย แต่ในผู้ชายมักมีปัจจัยเสี่ยงจากพฤติกรรม เช่น การสูบบุหรี่ หรือการได้รับสารพิษมากขึ้น. โรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น นิ่วที่ไตและทางเดินปัสสาวะ หรือการอุดตันจากต่อมลูกหมากโต อาจพบได้มากในผู้ชายสูงอายุ.
  • โรคไตที่ผู้หญิงเป็นมากที่สุดในประเทศไทย: ความชุกของ โรคไตเรื้อรัง พบได้บ่อยกว่าในเพศหญิง และยังมีโรคที่เกี่ยวข้องกับภูมิต้านทาน เช่น โรคเอสแอลอี (SLE) ซึ่งพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายหลายเท่า และเป็นสาเหตุสำคัญของไตอักเสบ.
  • โรคไตที่เด็กเป็นเยอะที่สุดในประเทศไทย: ส่วนใหญ่มักเกิดจาก ความผิดปกติทางพันธุกรรมแต่กำเนิด หรือความผิดปกติของโครงสร้างไตและทางเดินปัสสาวะ เช่น โรคถุงน้ำในไต หรือเด็กที่มีน้ำหนักแรกคลอดน้อยกว่า 2,500 กรัมก็มีความเสี่ยงสูงต่อ ไตเสื่อม ในอนาคต.

5. ค่าใช้จ่ายในการรักษา โรคไต ในประเทศไทยปี 2025 (อัปเดตสิทธิ)

โรคไต วายเรื้อรังมีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูงมาก โดยเฉพาะการบำบัดทดแทนไต อย่างไรก็ตาม ในปี 2025 ผู้ป่วยสิทธิ บัตรทอง ได้รับการดูแลอย่างครอบคลุม:

  • การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (Hemodialysis): เดิมมีข้อจำกัด แต่ตามประกาศใหม่ปี 2025 ผู้ป่วยสิทธิ บัตรทอง ได้รับสิทธิ ฟอกไตฟรีทุกแห่ง โดยไม่มีการเรียกเก็บค่าบริการเพิ่มเติม ซึ่งค่าใช้จ่ายเฉลี่ยก่อนสิทธิอยู่ที่ประมาณ 20,000 บาทต่อเดือน/คน.
  • การล้างช่องท้องด้วยน้ำยา (Peritoneal Dialysis – CAPD): ผู้ป่วยสิทธิ บัตรทอง ได้รับการสนับสนุนน้ำยาและอุปกรณ์โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย.
  • การปลูกถ่ายไต (Kidney Transplantation): เป็นวิธีการรักษาที่ดีที่สุด ซึ่งสิทธิ บัตรทอง ได้ขยายการปลูกถ่ายไต โดยครอบคลุมค่าใช้จ่ายผ่าตัดและค่ายากดภูมิคุ้มกัน (ค่าใช้จ่ายยากดภูมิคุ้มกันมีอัตราเหมาจ่ายที่ลดลงตามระยะเวลาหลังการปลูกถ่าย เริ่มต้นที่ประมาณ 30,000 บาทต่อเดือน ในช่วง 1-6 เดือนแรก).

6. วิธีการและขั้นตอนการรักษา โรคไต

การรักษา โรคไต มีเป้าหมายหลักคือการชะลอการเสื่อมของไต และการบำบัดทดแทนไตเมื่อเข้าสู่ระยะสุดท้าย

 การรักษาเพื่อชะลอความเสื่อมของไต (CKD Stage 1-4)

  1. ควบคุมโรคที่เป็นสาเหตุ: ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ดีในผู้ป่วยเบาหวาน และควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม (มักกำหนดเป้าหมายความดันโลหิต $< 130/85 มม.ปรอท).
  2. การใช้ยา: แพทย์จะให้ยาเพื่อควบคุมความดันและลดปริมาณโปรตีนที่รั่วในปัสสาวะ (เช่น ยาในกลุ่ม ACE-I หรือ ARB) รวมถึงยาอื่น ๆ เพื่อรักษาสมดุลเกลือแร่.
  3. จำกัดอาหารโปรตีน: ในผู้ป่วย ไตเสื่อม ระยะ 3 ขึ้นไป ควรจำกัดปริมาณโปรตีนที่รับประทาน เพื่อลดภาระการทำงานของไต (เน้นโปรตีนคุณภาพดี เช่น ปลา ไข่ขาว).
  4. หลีกเลี่ยงยาที่มีผลต่อไต: เช่น ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs และยา/สมุนไพรที่ไม่ผ่านการรับรอง.

 การบำบัดทดแทนไต (Renal Replacement Therapy – CKD Stage 5)

เมื่อไตเข้าสู่ภาวะ ไตวายระยะสุดท้าย ผู้ป่วยต้องได้รับการบำบัดทดแทนไต ซึ่งมี 3 วิธีหลัก:

  1. การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (Hemodialysis): นำเลือดผู้ป่วยผ่านเครื่องกรองเพื่อกำจัดของเสีย โดยทำที่โรงพยาบาล สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง.
  2. การล้างไตทางช่องท้อง (Peritoneal Dialysis – CAPD): ผู้ป่วยใส่น้ำยาเข้าไปในช่องท้องและถ่ายน้ำยาออกเองที่บ้าน วันละประมาณ 4 ครั้ง หรือทำขณะนอนหลับ (เครื่องอัตโนมัติ).
  3. การปลูกถ่ายไต (Kidney Transplantation): เป็นวิธีที่ดีที่สุด โดยการผ่าตัดนำไตที่แข็งแรงจากผู้บริจาคมาใส่ในร่างกายผู้ป่วย.

7. การดูแลผู้ป่วย โรคไต

การดูแลผู้ป่วย โรคไต ต้องเน้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการควบคุมอาหารอย่างเคร่งครัด:

  • การควบคุมอาหาร:
    • ลดเค็ม: จำกัดเกลือไม่เกิน 1 ช้อนชาต่อวัน หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารหมักดอง และเนื้อสัตว์แปรรูป.
    • ควบคุมน้ำ: ในระยะท้ายต้องจำกัดปริมาณน้ำดื่ม และอาหารที่มีน้ำมาก (เช่น ข้าวต้ม ก๋วยเตี๋ยวน้ำ ซุป) ตามคำแนะนำแพทย์.
    • ควบคุมโพแทสเซียม/ฟอสฟอรัส: ปรึกษาแพทย์/นักโภชนาการเพื่อจำกัดผัก ผลไม้ และผลิตภัณฑ์นมบางชนิด.
  • การออกกำลังกาย: ออกกำลังกายเบาถึงปานกลาง เช่น เดิน ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน อย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ แต่ไม่ควรหักโหม.
  • การใช้ยา: รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และห้ามซื้อยา สมุนไพร หรืออาหารเสริมมารับประทานเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ เนื่องจากบางชนิดอาจเป็นพิษต่อไต.
  • การตรวจติดตาม: ตรวจสุขภาพและติดตามผลเลือด ค่า eGFR และปัสสาวะอย่างสม่ำเสมอตามนัดแพทย์.

8. เจาะลึก โรคไต (สรุปย่อย)

  • การตรวจ: การวินิจฉัย โรคไต ทำได้ง่ายโดยการตรวจเลือดเพื่อหาค่า Creatinine และคำนวณค่า eGFR และตรวจปัสสาวะเพื่อหาโปรตีนรั่ว (Microalbuminuria). ควรตรวจสุขภาพทุกปี หากมีโรคประจำตัวหรืออายุเกิน 60 ปี ควรตรวจทุก 6 เดือน.
  • ระยะโรคไต: การรู้ระยะโรค (Stage 1-5) ช่วยให้วางแผนการรักษาได้อย่างถูกต้อง การรักษาในระยะเริ่มต้นเน้นการชะลอการเสื่อมของไตเป็นสำคัญ.
  • คำสำคัญ: โรคไต, ไตเสื่อม, eGFR, เบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, ไตวายระยะสุดท้าย.

คุณกำลังดูบทความเกี่ยวกับวิธีการดูแล โรคไต และชะลอความเสื่อมของไต การดูแลไตและชะลอความเสื่อมของไต เพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มเติมในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม.


z

สนใจ แบบประกัน กดที่นี่

z

ขอข้อมูลเพิ่ม กดที่นี่

ช่องทางชำระเงิน
1.
โอนผ่าน QR CODE หรือ ชำระช่องทุกธนาคาร
2.
แคชเชียร์เช็ค เช็ค
3.
บัครเครดิตทุกธนาคาร ทั้งระบบ Online และ OFF Line
4.
เงินสดพร้อมเอกสารรับเงิน

บวรธีรักษ์ บรรณบวรพงษ์

วิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
FChFP – Fellow Chartered Financial Practitioner
คุณวุฒิทางวิชาชีพสำหรับมืออาชีพ ด้านบริการทางการเงิน
MDRT
คือ สมาคมของที่ปรึกษาทางการเงินนานาชาติ
ประสบการทำงานกว่า 20ปี

 

Get a personal consultation

We will take care of your accounting and administrative services.

Add Line หาเรา
(081) 930 4184