การรักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD) รายครั้ง 30 ครั้ง/ปี

สัญญาเพิ่มเติม การรักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD) ของเมืองไทยประกันชีวิต เป็นความคุ้มครองเสริมที่ออกแบบมาเพื่อช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายในการพบแพทย์ ตรวจโรค รับยา แล้วกลับบ้านได้โดยไม่ต้องนอนโรงพยาบาล
บทความ: ประกัน OPD เมืองไทยประกันชีวิต ไม่ต้องสำรองจ่าย ทางเลือกใหม่ในการบริหาร ค่ารักษาผู้ป่วยนอก
- ประกัน OPD เมืองไทยประกันชีวิต
- ค่ารักษาผู้ป่วยนอก, ประกันผู้ป่วยนอก, OPD ต่อครั้ง, OPD เหมาจ่าย, ไม่ต้องสำรองจ่าย
1. ข้อมูลโดยละเอียด
สัญญาเพิ่มเติม การรักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD) ของ เมืองไทยประกันชีวิต มีให้เลือก 2 รูปแบบหลักๆ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกัน:
| รายละเอียด | OPD ต่อครั้ง (OPD Per Time) | OPD เหมาจ่าย (OPD Maochai) |
| ลักษณะความคุ้มครอง | จ่ายเป็นวงเงินที่แน่นอน ต่อการเข้ารับการรักษา 1 ครั้ง | จ่ายตามจริงรวมกัน ไม่เกินวงเงินสูงสุดต่อปี |
| วงเงินต่อครั้ง | เลือกได้ 500 ถึง 3,000 บาทต่อครั้ง | – |
| จำกัดจำนวนครั้ง | สูงสุด 30 ครั้งต่อปี (หรือตามแผนที่เลือก) | ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ต่อปี (อาจจำกัด 2 ครั้ง/วัน) |
| วงเงินรวมต่อปี | – | เลือกได้ตั้งแต่ 15,000 ถึง 100,000 บาทต่อปี |
| อายุรับประกัน | ประมาณ 6 – 80 ปี (ต่ออายุได้ถึง 99 ปี) | ประมาณ 6 – 90 ปี (ต่ออายุได้ถึง 99 ปี) |
| เงื่อนไขสำคัญ | เป็นสัญญาเพิ่มเติม ต้องแนบกับกรมธรรม์ประกันชีวิตหลัก | เป็นสัญญาเพิ่มเติม ต้องแนบกับกรมธรรม์ประกันชีวิตหลัก |
| การเคลม | มีบริการ OPD Cashless ไม่ต้องสำรองจ่าย ณ โรงพยาบาลคู่สัญญา | มีบริการ OPD Cashless ไม่ต้องสำรองจ่าย ณ โรงพยาบาลคู่สัญญา |
2. จุดเด่นของแบบประกัน
- ยืดหยุ่นตามการใช้งาน: มีให้เลือกทั้งแบบ OPD ต่อครั้ง สำหรับการเจ็บป่วยเล็กน้อย และแบบ OPD เหมาจ่าย สำหรับผู้ที่พบแพทย์บ่อยหรือต้องการวงเงินสูง
- บริการ Cashless: สามารถใช้บริการ OPD Cashless ไม่ต้องสำรองจ่าย กับโรงพยาบาลคู่สัญญาของ เมืองไทยประกันชีวิต ได้กว่า 400 แห่งทั่วประเทศ เพิ่มความสะดวกสบาย
- แบ่งเบาภาระเล็กน้อย: คุ้มครอง ค่ารักษาผู้ป่วยนอก ตั้งแต่การตรวจโรค, ค่ายา, ค่าแพทย์, การทำแผล หรือฉีดยา ทำให้ไม่ต้องใช้เงินก้อนในการเจ็บป่วยทั่วไป
- ลดหย่อนภาษีได้: เบี้ยประกันสุขภาพนี้สามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามเกณฑ์ของกรมสรรพากร
3. ทำไมถึงควรเลือกแบบค่ารักษาตัวนี้
- ควบคุมค่าใช้จ่ายรายย่อย: แม้ค่ารักษาผู้ป่วยใน (IPD) จะเป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ แต่ ค่ารักษาผู้ป่วยนอก ก็เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุด การมี ประกัน OPD เมืองไทยประกันชีวิต ช่วยบริหารค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ไม่ต้องกังวลเรื่องการเคลมบ่อย: โดยเฉพาะแบบ OPD เหมาจ่าย ที่ให้วงเงินก้อนเดียวใช้ได้ตลอดปี ไม่จำกัดครั้ง (จำกัดต่อวัน) ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าวงเงินต่อครั้งจะไม่พอ
- ทางเลือกสำหรับคนป่วยง่าย: เหมาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก, ผู้สูงอายุ, หรือผู้ที่มีอาการเรื้อรังที่ต้องพบแพทย์เพื่อติดตามอาการเป็นประจำ (เช่น ภูมิแพ้)
4. เหมาะกับใคร กลุ่มเป้าหมายคือใคร
- คนที่มีประกัน IPD อยู่แล้ว: ผู้ที่ซื้อประกันสุขภาพหลัก (IPD) ไปแล้ว แต่ต้องการเพิ่มความคุ้มครอง ค่ารักษาผู้ป่วยนอก เข้าไป
- ครอบครัวที่มีเด็กเล็ก: เด็กมักจะเจ็บป่วยเล็กน้อย เช่น เป็นหวัด, ท้องเสีย, ต้องไปพบแพทย์และรับยาบ่อยครั้ง การมี ประกันผู้ป่วยนอก ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายรายเดือน/รายปีได้มาก
- ผู้ที่พบแพทย์บ่อย: ไม่ว่าจะเป็นอาการเจ็บป่วยเรื้อรังที่ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล หรือผู้ที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยเล็กน้อยบ่อยครั้ง
- ผู้ที่ต้องการความสะดวก: ต้องการใช้บริการ OPD Cashless ไม่ต้องสำรองจ่าย ในการรักษาพยาบาล
5. มีประกันอื่นอยู่แล้ว ทำไมควรมีแบบ การรักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก OPD อีก 1 ฉบับ
- ประกันกลุ่มส่วนใหญ่ไม่คุ้มครอง OPD หรือวงเงินต่ำมาก: ประกันกลุ่มที่บริษัทมอบให้มักจะเน้นที่ IPD หรือมีวงเงิน OPD ที่จำกัด เช่น 500 บาท/ครั้ง ซึ่งไม่เพียงพอต่อค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนในปัจจุบัน การเพิ่ม ประกัน OPD จะเป็นการเสริมวงเงินให้ใช้จ่ายได้จริง
- ประกันสุขภาพหลัก (IPD) ไม่ครอบคลุม: ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายบางแผนจะเน้นความคุ้มครอง IPD (ผู้ป่วยใน) เป็นหลัก ค่ารักษาผู้ป่วยนอก อาจถูกแยกออกไปหรือต้องซื้อเพิ่ม การซื้อสัญญา OPD มาแนบเป็นการเติมเต็มให้ความคุ้มครองครบถ้วน
- ประกันออมทรัพย์/ลดหย่อนภาษี: แบบประกันเหล่านี้ไม่ได้ให้ความคุ้มครองสุขภาพโดยตรง การซื้อ ประกัน OPD ควบคู่จะช่วยให้ได้สิทธิลดหย่อนภาษีเพิ่ม (ในส่วนของเบี้ยสุขภาพ) และได้รับความอุ่นใจด้านสุขภาพด้วย
6. ความเห็น/Feedback ของลูกค้า
จากข้อมูลในช่องทางสาธารณะ (เช่น Pantip) ลูกค้าที่เลือกซื้อ ประกัน OPD มักมีความประทับใจในเรื่อง:
- ความสะดวกของ Cashless: การสามารถเดินเข้าโรงพยาบาลคู่สัญญาแล้วใช้สิทธิ ไม่ต้องสำรองจ่าย ในการเจ็บป่วยเล็กน้อย ถือเป็นความสะดวกที่คุ้มค่ากับเบี้ยประกัน
- ความคุ้มค่าเมื่อใช้บ่อย: สำหรับผู้ที่มีการใช้งานสม่ำเสมอ หรือครอบครัวที่มีลูกเล็ก จะรู้สึกว่า ประกันผู้ป่วยนอก คุ้มค่ามาก เพราะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้จริง
- ข้อควรพิจารณา: ผู้ใช้งานควรทำความเข้าใจรูปแบบที่เลือก (ต่อครั้ง vs เหมาจ่าย) เพราะบางรายที่เลือก OPD ต่อครั้ง อาจรู้สึกว่าวงเงินที่ได้ไม่เพียงพอต่อค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด และต้องจ่ายส่วนต่างเพิ่ม

รายละเอียดความคุ้มครอง


เจ็บป่วยรับยากลับบ้านอุ่นใจไร้กังวลด้วย OPD
ช่องทางชำระเงิน
1.โอนผ่าน QR CODE หรือ ชำระช่องทุกธนาคาร
2.แคชเชียร์เช็ค เช็ค
3.บัครเครดิตทุกธนาคาร ทั้งระบบ Online และ OFF Line
4.เงินสดพร้อมเอกสารรับเงิน
บวรธีรักษ์ บรรณบวรพงษ์
ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัทเมืองไทยประกันชีวิต จำกัด(มหาชน)
วิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
FChFP – Fellow Chartered Financial Practitioner
คุณวุฒิทางวิชาชีพสำหรับมืออาชีพ ด้านบริการทางการเงิน
MDRT คือ สมาคมของที่ปรึกษาทางการเงินนานาชาติ
ประสบการทำงาน20ปี
MASTER TRAINERฝ่ายขาย




